ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร และรถเช่า ที่ทันสมัยที่สุดในจังหวัดปราจีนบุรี

 
 
หน้าหลัก เกี่ยวกับเรา รถเช่า บริการของเรา ติดต่อเรา
HOTLINE : 086-3665967 | | เพิ่มเพื่อน

CAR RENTAL CENTER : 086-3665967

สยามยางยนต์ กบินทร์บุรี | สยามยางยนต์ นิคม 304

 

CAR SERVICE

Knowledge

ผลิตภัณฑ์ และบริการ
ยางรถยนต์ น้ำมันเครื่อง แบตเตอรี่ เบรค ช่วงล่าง ติดตั้งแก๊ส / E85 บริการอื่นๆ
เพิ่มเติม
Knowledge
CAR RENT
CAR SERVICE
GAS SERVICE
ALL
Tires
Lubricant
Brake
Battery
Shock-Up
Other

" ไดชาร์จ " คืออะไร สำคัญอย่างไร

ตรวจเชค "ไดชาร์จ" ก่อนรถไฟหมด !

 

               เคยสงสัยกันไหมว่า กระแสไฟในแบทเตอรีรถยนต์ ทำไมใช้เท่าไรก็ไม่หมด นั่นเป็นเพราะ อุปกรณ์ขนาดเล็กตัวหนึ่งที่สามารถผลิตกระแสไฟได้ ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า "ไดชาร์จ" มารู้จัก ไดชาร์จ รวมถึงวิธีตรวจเชคเบื้องต้นกัน !

 

ไดชาร์จ อุปกรณ์ชาร์จไฟ

 

               ไดชาร์จ หรือ อัลเทอร์เนเตอร์ (ALTERNATOR) เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าประจำรถ มีหน้าที่ผลิตไฟฟ้ากระแสตรง เพื่อชาร์จกระแสไฟเข้าไปเก็บในแบทเตอรี รวมถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ การทำงานของไดชาร์จจะต้องอาศัยสายพานหน้าเครื่อง มาหมุนพูลเลย์หน้าไดชาร์จ เพื่อที่จะหมุนไดชาร์จกลับมาเป็นกระแสไฟนั่นเอง หากไดชาร์จเสีย ก็เท่ากับว่าแบทเตอรีต้องจ่ายไฟออกเพียงอย่างเดียว ไฟในแบทเตอรีก็จะลดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งหมดเกลี้ยงในที่สุด

 

2 ลางบอกเหตุไดชาร์จเสีย

 

- ไฟเตือนรูปแบทเตอรีบนหน้าปัด...รถยนต์รุ่นใหม่ มักมีไฟเตือนกรณีไดชาร์จไม่ทำงาน โดยจะขึ้นเป็นสัญลักษณ์รูปแบทเตอรีที่หน้าปัด ถ้าเจอแบบนี้ ให้รีบนำรถเข้าตรวจเชคโดยด่วน

- อายุขัยของรถ...สาเหตุนี้ถือเป็นเรื่องปกติของสรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวง ไดชาร์จส่วนใหญ่มีอายุการใช้งานราว 10 ปี ฉะนั้นรถใครเกิน 10 ปี ให้รีบเอารถไปตรวจเชคไดชาร์จกันได้แล้ว

ไดชาร์จ และแบทเตอรี

          ใครที่ใช้รถเดิมๆ จากโรงงาน โดยที่ไม่ได้เพิ่มอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นเข้าไปมากนัก ย่อมอุ่นใจได้ เพราะระบบไฟบนรถคุณจะเสถียรอยู่แล้ว แต่ถ้าหากไปติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ เพิ่มเติม อาทิ เครื่องเสียงชุดใหญ่, สปอทไลท์วัตต์สูงๆ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้กระแสไฟมากๆ ย่อมเกิดปัญหากระแสไฟไม่พอได้ การจะเปลี่ยนแบทเตอรี หรือไดชาร์จ อย่างใดอย่างหนึ่งให้ใหญ่ขึ้น ย่อมอาจเกิดปัญหาตามมาในภายหลัง ยกตัวอย่างเช่น เปลี่ยนแบทเตอรีให้ใหญ่ขึ้น แต่ไดชาร์จยังมีขนาดเท่าเดิม แบบนี้ไดชาร์จจะทำงานหนักเกินไป (ทำงานตลอดเวลา) เพื่อผลิตกระแสไฟให้ทัน หรือตรงกันข้าม หากเปลี่ยนเฉพาะไดชาร์จให้ใหญ่ขึ้นเพียงอย่างเดียว โดยที่แบทเตอรีมีขนาดเท่าเดิม แบบนี้จะทำให้ไดชาร์จ ชาร์จไฟเข้ามากเกินไป ส่งผลให้แบทเตอรีเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควรได้ง่ายๆ

ไดชาร์จพัง อย่าซ่อมเอง !

        ในกรณีที่ไดชาร์จเสีย หรือไม่ทำงาน เราสามารถตรวจสอบเองได้จากเครื่องวัดโวลท์มิเตอร์ตามขั้นตอนต่างๆ ที่กล่าวไว้ ถ้าเห็นว่าเสีย ไม่ควรรื้อออกมาซ่อมเองโดยที่ไม่มีความรู้ หรือความชำนาญพอ ควรให้ร้านไดนาโมที่ไว้ใจได้ เป็นผู้ถอดซ่อมให้ดีที่สุด

อุปกรณ์


1. เครื่องวัดโวลท์มิเตอร์
2. ประแจเบอร์ต่างๆ

 

ขั้นตอนการตรวจเชคไดชาร์จ


1. ดึงสลักลอคฝากระโปรงหน้ารถ แล้วค้ำขาตั้งฝากระโปรงรถให้มั่นคง แข็งแรง
2. ตรวจเชคความตึงของสายพานที่ผ่านไดชาร์จ ถ้าหย่อนไปจะทำให้จ่ายกระแสน้อย ถ้าตึงมากบุชอาจเสียหายได้
3. ตรวจเชคนอทสกรูที่ยึดไดชาร์จ ต้องแน่นเสมอ ถ้าหลวมอาจทำให้ขายึดไดชาร์จแตกหักได้
4. สตาร์ทเครื่องยนต์ (ไม่ต้องเปิดแอร์) โดยให้เครื่องยนต์ทำงานที่รอบเดินเบาของรถ
5. สังเกตอาการและเสียงของไดชาร์จ ว่ามีอาการผิดปกติหรือไม่ ถ้าผิดปกติให้ดับเครื่องยนต์ทันที
6. เปิดแอร์ เปิดไฟหน้า เพื่อเพิ่มโหลดของเครื่องยนต์ โดยอาจเปิดไฟสูงเลยก็ได้
7. นำเครื่องวัดโวลท์มิเตอร์ วัดกระแสแรงดันที่ขั้วทั้งสองของแบทเตอรี (ขั้วลบสีดำ/ขั้วบวกสีแดง)
8. ปรับตัวรับกระแสที่โวลท์มิเตอร์ ไปที่ตำแหน่ง DC V เพื่อเปลี่ยนตัวรับเป็นไฟกระแสตรง
9. ตรวจดูตัวเลขที่ขึ้นบนโวลท์มิเตอร์ ค่าที่ได้จะต้องประมาณ 12 โวลท์เท่านั้น
10. กดคันเร่งเพิ่มรอบเครื่องยนต์ให้อยู่ที่ 1,500 รตน. คงที่ และให้ปิดไฟหน้ารถทั้งหมด
11. ตรวจดูตัวเลขที่ขึ้นบนโวลท์มิเตอร์อีกครั้ง ค่าที่ได้จะต้องมากกว่า 14.5 โวลท์ขึ้นไป
12. ถ้าตัวเลขที่ออกมายังอยู่ในเกณฑ์ที่ระบุไว้ แสดงว่าไดชาร์จยังใช้งานได้ปกติ ไม่มีปัญหาอะไร

Credit: 4WHEELS MAGAZINE ฉบับเดือนพฤษภาคม 2557
รูปภาพ: http://market.onlineoops.com/